ในระหว่างทางรอนแรม
หมายเลข 1 ….. เกาะระ บีชแค้มป์
ยามฝนซาเม็ด มรสุมร้างเวิ้งฟ้าแห่งอันดามัน เมฆหลังฝนจับก้อนปั้นแต่งหลากลีลา ราวกับเด็กน้อยออกมาระเริงร่าย่ำแอ่งน้ำที่กักขังอยู่ในทุ่งฟ้าคราม ลมอ่อนของสายลมหนาวจากตอนเหนือส่งมาถึงเพียงอากาศแสนสบายของชายฝั่งอันดามัน
ในวันที่เมฆเต็มฟ้า บ้านป่ากลางไพร “บ้านปลายวา” ได้รับเสียงกระซิบเชิญจากเกลียวคลื่น “พรุ่งนี้ว่างกันไหม จะลงไปสำรวจความเรียบร้อยของแค้มป์บนเกาะระ ที่ยังว่างอยากเปลี่ยนฉากสร้างบรรยากาศกับการสร้างสรรค์งานกันบ้างไหม ?”
คำเชิญชวนที่ใครเล่าจะ กล้าปฏิเสธในน้ำจิตน้ำใจอันกว้างใหญ่ของชายหนุ่มแห่งกรีนอันดามัน…….โก นัย พวกเราตอบรับแบบไม่เกรงใจ “ไปๆๆๆ” ภาพในจินตนาการยามนั้นมีเพียงภาพถ่ายที่โกนัยเคยให้ชมครั้งหนึ่ง ฉันรีบเตรียมอุปกรณ์จำเป็นระหว่างการเดินทางไปเช้าเย็นกลับ ในขณะที่หนุ่ม ๆ วุ่นวายกับการเตรียมกล้องและอุปกรณ์ และที่สำคัญคือการหาข้อมูลเบื้องต้นของเกาะร
………อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระ–เกาะพระทอง เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อประกาศจัดตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติตามกฎหมาย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ประกอบไปด้วยเกาะต่างๆ ที่อยู่ติดทะเลอันดามัน ได้แก่ เกาะระ เกาะคอเขา เกาะพระทอง เกาะปลิง–เกาะพ่อตา เกาะลูกตุ้ม เกาะทุ่งนางดำ และมีเกาะขนาดเล็กต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน 37 เกาะ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 401,250 ไร่ หรือ 642 ตารางกิโลเมตร
เกาะระ มีพื้นที่ 19.5 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ มีความลาดชันสูงมียอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 235 เมตร ด้านทิศตะวันตกมีหาดทรายเป็นแนวยาวด้านทิศเหนือและทิศใต้เป็นแหล่งที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์……
ท่าเรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
รู้สภาพพื้นที่คร่าว ๆ อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เริ่มเดินทางอย่างไม่เป็นทางการ สายแดดจัดจ้านปานจะบอกเราว่าอย่าไปเลย….ร้อนนะ แต่อย่ารั้งฉันไว้เสียให้ยาก เกือบ 10 นาฬิกา เราจึงออกเดินทางจากบ้านบางม่วงตรงไปยัง อ.คุระบุรี เพื่อไปลงเรือสปีดโบ้ทที่ท่าเรือหมู่เกาะสุรินทร์ เดินรุงรังกันที่ท่าเรือพอให้ชาวต่างชาติทั้งพม่า มอญ แตกตื่นเสียนิดหน่อย โกนัยจึงต้อนลงสะพานเพื่อไปยังเรือ เห็นเรือหาปลาทอดรับอยู่ที่ปลายท่า ถึงกับร้องไชโยที่ได้ขึ้นเรือลำใหญ่ ได้วิ่งหามุมถ่ายภาพได้รอบทิศทาง
คนขับเรือผู้แสนจะน่ารัก ชี้ชวนชมอธิบายตลอดว่าเกาะไหนเป็นอย่างไร ขอโทษพี่จริง ๆ ที่ลืมถามชื่อมัวแต่เพลินกับทะเล แล้วจะกลับไปถามอีกรอบนะขอรับ ประมาณครึ่งชั่วโมงบนสปีดโบ้ท กระเด้งกระดอนอยู่บนยอดคลื่นเล็ก ๆ ยามที่เรือประมงแล่นผ่าน ได้ตื่นเต้นสลับอารมณ์ แนวเทือกเขาเขียวขจีกลางน้ำลิบ ๆ อยู่ในสายตาเคลื่อนเข้ามาหาอย่างแช่มช้า
“นั่นคือเกาะระ” คนขับเรือชี้ให้ดูทางด้านซ้ายมือ บรรดานักสำรวจปลอมชูกล้องขึ้นไปราวกับจะสาดกระสุน เมื่อกี้ก็ถ่ายภาพกันแกรก ๆ อยู่แล้วนี่นา….พอรู้ว่านี่คือเกาะเป้าหมาย ความสนใจจากขอบฟ้าอื่นหมดไปโดยพลัน
เกาะระฝั่งทะเลใน
Koh Ra Beach Camp ตั้งอยู่ฝั่งทะเลนอก เราจึงต้องอ้อมหัวแหลมผ่านโขดหินสวยมาจนถึงหน้าหาด แต่ช่วงน้ำลงหาดจะเป็นหน้าตัดเลยขึ้นลงลำบาก เรือวกกลับมาอ่าวเล็ก ๆ เพื่อให้สาว ๆ ลงเรือได้สะดวก จากนั้นเราก็ขนเสบียงเดินป่าตัดเข้าไปยังหน้าหาดของ Koh Ra Beach Camp เหนื่อย หอบ แต่สนุก
เกาะระฝั่งทะเลนอก และที่ตั้ง เกาะระบีชแค้มป์
เดินเท้า (เปล่า) เข้าป่าไปหาแค้มป์
ทันทีที่มุดแนวป่ากึ่งป่าโปร่งแบบสะวันนามายังหน้าหาด ความเหนื่อยหายวับไปกับตา แค้มป์ที่พักคนงานน่าอยู่มาก เต็นท์เรียงรายอยู่รอบเพิงครัว กองไฟกลางลานและหม้อข้าวดำเมี่ยมแขวนอยู่รายรอบ ข้าวกล่องที่พกมาจากบนฝั่งแย่งช้อนกันคนละคำ ช่างอร่อยเหลือประมาณ นึกถึงบรรยากาศของการออกค่ายครั้งยังเรียนมหาวิทยาลัย จุดกางเต็นท์หน้าหาดซึ่งเปิดกว้างเห็นหมู่เกาะสุรินทร์ งดงามเหลือเกิน
หมู่เกาะสุรินทร์มองเห็นจากหน้าหาด
หาดทรายร้องเพลงทุกการย่ำเท้า รอคุณมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง
ประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ เราก็เตรียมตัวกลับ เรือของเราไปลอยลำอยู่ที่หัวเกาะ เมื่อเราตะกายขึ้นไปแกรีบอวดปลากระพงเหลืองตัวเกือบสองกิโลที่ตกได้…โอ
เสียดายเหลือเกินที่ครั้งนี้ไม่ได้พักค้างเพื่อเสพแสงสุดท้ายของอาทิตย์ยามอัศดงลงขอบทะเลกว้าง ทะเลอันดามันเขียวครามสุดตา….เสียดายเหลือเกิน
แต่ฉันมั่นใจว่าจะต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เพราะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงบนชายหาดที่เม็ดทรายส่งเสียงร้องเพลงต้อนรับทุกการย่ำเท้า ฉันยังไม่ได้ร้องเพลงกับเธอเลยนะแม่ทรายสีทอง…
ฉันจะต้องกลับมา…. Koh Ra Beach Camp
By ปลายแปรง
21 พย. 55